ล็อกฮีด พี-38 ไลท์นิง เป็น
เครื่องบินขับไล่ที่มีเครื่องยนต์แบบลูกสูบของอเมิกันในช่วง
สงครามโลกครั้งที่สอง ถูกพัฒนาขึ้นจากเหล่ากองทัพอากาศสหรัฐ(United States Army Air Corps) พี-38 นั้นมีแพนหางคู่ที่โดดเด่น และห้องเครื่องโดยสารที่อยู่ตรงกลางจะมีนักบินและอาวุธยุโธปกรณ์ โฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายสัมพันธมิตรได้กล่าวอ้างว่าได้มีการตั้งฉายาว่า ปีศาจส้อมคู่ประกบกัน(fork-tailed devil)(
เยอรมัน: der Gabelschwanz-Teufel) โดย
ลุฟท์วัฟเฟอ และ"เครื่องบินสองลำ,หนึ่งนักบิน" (2飛行機、1パイロット Ni hikōki, ippairotto) โดยญี่ปุ่น
[6] พี-38 ถูกใช้งานสำหรับการสกัดกั้น การทิ้งระเบิดแบบดำดิ่ง การทิ้งระเบิดแบบระดับ โจมตีทางภาคพื้นดิน เครื่องบินขับไล่ตอนกลางคืน การถ่ายภาพลาดตระเวน เรดาร์และการมองเห็นช่องทางสำหรับการทิ้งระเบิดและภารกิจอพยพ
[7] และอย่างกว้างขวางในฐานะเครื่องบินขับไล่คุ้มกันในระยะยาว เมื่อได้ติดตั้งถังดร็อป(Drop tank)ไว้ใต้ปีกพี-38 ได้ถูกใช้งานอย่างประสบความสำเร็จอย่างมากมายในปฏิบัติการในเขตสงครามแปซิฟิกและปฏิบัติการในเขตสงครามจีน-พม่า-อินเดียในฐานะที่เป็นเครื่องบินของเสืออากาศที่มีอันดับต้นๆของอเมริกา, Richard Bong(ชัยชนะ 40 ครั้ง) Thomas McGuire (ชัยชนะ 38 ครั้ง) และ Charles H. MacDonald(ชัยชนะ 27 ครั้ง) ในเขตสงครามแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้ พี-38 เป็นเครื่องบินขับไล่ในระยะยาวเป็นหลักของกองทัพอากาศสหรัฐจนกระทั่งการปรากฏตัวเป็นจำนวนมากของ
เครื่องบินพี-51ดี มัสแตง ตลอดในช่วงท้ายสงคราม
[8][9]พี-38 นั้นมีความเงียบเป็นพิเศษสำหรับเครื่องบินขับไล่ เนื่องจากท่อไอเสียจะถูกปกปิดด้วยเทอร์โบ-ซูปเปอร์ชาร์จเจอร์(turbo-superchargers) มันอาจได้รับการให้อภัยอย่างมากและอาจมีข้อผิดพลาดได้หลายวิธี แต่อัตราการหมุนในเวอร์ชันแรกนั้นต่ำเกินไปสำหรับความเก่งกาจในฐานะสุนัขเครื่องบินขับไล่(dogfighter) พี-38 นั้นเป็นเครื่องบินขับไล่สัญชาติอเมริกาเพียงลำเดียวในการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดมาตลอดในช่วงการเข้าร่วมในสงครามของอเมริกา จาก
เพิร์ลฮาร์เบอร์ไปจนถึง
วันแห่งชัยชนะเหนือญี่ปุ่น[10] ในช่วงท้ายสงคราม, คำสั่งในการผลิตอีกกว่า 1,887 ลำได้ถูกยกเลิก
[11]